แนะนำประวัติแมนยู “ปีศาจแดง” แห่งเกาะอังกฤษ

ประวัติแมนยู

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United Football Club) เป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก และยังเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1878 ภายใต้ชื่อเดิมว่า “Newton Heath LYR Football Club” และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในปี ค.ศ. 1902 เรื่องราวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่มีทั้งความสำเร็จและความท้าทาย ซึ่งทำให้สโมสรนี้กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอล

การก่อตั้งและประวัติแมนยู (1878-1945)

ประวัติแมนยูสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1878 โดยเริ่มต้นจากการเป็นทีมของบริษัททางรถไฟ “Newton Heath LYR” (Lancashire and Yorkshire Railway) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้พนักงานของบริษัทมีทีมฟุตบอลลงแข่งขันในลีกท้องถิ่น สโมสรได้รับการสนับสนุนจากบริษัทรถไฟอยู่หลายปี และในช่วงเวลานั้นทีมได้ใช้ชื่อว่า “Newton Heath LYR Football Club”​

ในปี ค.ศ. 1902 หลังจากประสบปัญหาทางการเงิน สโมสรได้รับการช่วยเหลือจากนักธุรกิจท้องถิ่นชื่อ จอห์น เฮนรี เดวีส์ (John Henry Davies) ซึ่งได้เข้ามาซื้อหุ้นในสโมสรและเปลี่ยนชื่อทีมเป็น “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เพื่อสะท้อนถึงการเป็นตัวแทนของเมืองแมนเชสเตอร์ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สโมสรเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่

ในช่วงยุคต้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรประสบความสำเร็จครั้งแรกในการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1908 และแชมป์เอฟเอคัพครั้งแรกในปี ค.ศ. 1909 จากนั้นในช่วงทศวรรษ 1920 และ 1930 ทีมต้องเผชิญกับความยากลำบากทางการเงินและการตกชั้นลงไปเล่นในลีกระดับล่าง แต่ทีมก็สามารถกลับมาสู่ดิวิชั่นหนึ่งได้อีกครั้งหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง

ยุคของแมตต์ บัสบี้และการฟื้นตัว (1945-1969)

หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้แต่งตั้ง แมตต์ บัสบี้ (Matt Busby) เป็นผู้จัดการทีมในปี ค.ศ. 1945 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติแมนยู บัสบี้มีวิสัยทัศน์ในการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและเน้นการพัฒนานักเตะเยาวชนจากสโมสรเอง นำทีมเข้าสู่ยุคที่เต็มไปด้วยความสำเร็จ สโมสรคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของบัสบี้ในปี ค.ศ. 1952 และยังคว้าแชมป์ลีกอีกสองครั้งในปี ค.ศ. 1956 และ 1957​

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของทีมกลับถูกขัดขวางด้วยโศกนาฏกรรมในปี ค.ศ. 1958 เมื่อเกิดเหตุเครื่องบินตกที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหลายคนเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ ทีมที่ได้รับขนานนามว่า “บัสบี้ เบ็บส์” (Busby Babes) ต้องเผชิญกับการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง แต่แมตต์ บัสบี้ก็สามารถฟื้นตัวและสร้างทีมขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง

ในปี ค.ศ. 1968 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลายเป็นสโมสรอังกฤษทีมแรกที่คว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพ (หรือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปัจจุบัน) ภายใต้การนำของบัสบี้ นักเตะคนสำคัญในทีมประกอบด้วยจอร์จ เบสต์ (George Best), บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน (Bobby Charlton) และเดนิส ลอว์ (Denis Law) การคว้าแชมป์ครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูทีมหลังจากโศกนาฏกรรมมิวนิค​

ยุคของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (1986-2013)

อีกหนึ่งช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคือยุคการคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) เฟอร์กูสันเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมในปี ค.ศ. 1986 และแม้ว่าช่วงเริ่มต้นของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่หลังจากปี ค.ศ. 1990 เฟอร์กูสันก็เริ่มพาทีมคว้าแชมป์อย่างต่อเนื่อง

ในช่วงยุค 1990 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอังกฤษ ทีมสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 13 สมัย และคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกสองสมัยในปี ค.ศ. 1999 และ 2008 ความสำเร็จในปี 1999 ถือเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมแรกในอังกฤษที่คว้า ทริปเปิลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก)​

นักเตะที่สำคัญในยุคนี้รวมถึง เอริค คันโตน่า (Eric Cantona), เดวิด เบ็คแฮม (David Beckham), พอล สโคลส์ (Paul Scholes), ไรอัน กิ๊กส์ (Ryan Giggs) และรุด ฟาน นิสเตลรอย (Ruud van Nistelrooy) นักเตะเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครองความยิ่งใหญ่ในยุคนี้

หลังยุคเฟอร์กูสันและความท้าทาย (2013-ปัจจุบัน)

หลังจากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเกษียณในปี ค.ศ. 2013 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมากในการหาผู้จัดการทีมคนใหม่ที่สามารถนำทีมสู่ความสำเร็จเหมือนในยุคเฟอร์กูสัน สโมสรมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมหลายครั้งตั้งแต่ เดวิด มอยส์ (David Moyes), หลุยส์ ฟาน กัล (Louis van Gaal), โชเซ่ มูรินโญ่ (José Mourinho) จนถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (Ole Gunnar Solskjær) แต่ยังไม่สามารถคืนฟอร์มเก่งได้เท่ากับยุคของเฟอร์กูสัน

ในปี ค.ศ. 2021 สโมสรแต่งตั้ง เอริก เทน ฮาก (Erik ten Hag) เป็นผู้จัดการทีม ซึ่งทำให้แฟนบอลมีความหวังว่าเขาจะนำพาทีมกลับมาสู่ความสำเร็จเหมือนในอดีต นักเตะสำคัญในทีมปัจจุบันเช่น บรูโน่ แฟร์นันเดส (Bruno Fernandes), มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) และเจดอน ซานโช (Jadon Sancho) ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมแข่งขันในระดับสูง​

บทสรุป

สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเต็มไปด้วยช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1878 จนถึงการครองความยิ่งใหญ่ในยุคเฟอร์กูสัน สโมสรยังคงเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีแฟนบอลมากที่สุดในโลก แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายครั้ง แต่ด้วยศักยภาพและความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีโอกาสที่จะกลับมาสู่ความสำเร็จอีกครั้งในอนาคต